AI คืออะไร (Artificial Intelligence) ?
AI (Artificial Intelligence) ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ.1956 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่ง AI ถือว่าเป็นโปรแกรมจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่มีการประมวลผลที่ค่อนข้างมีความรวดเร็ว ซึ่งสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ ส่งผลให้เราได้มีการนำ AI ข้ามาช่วยงานมากขึ้น
AI มีการใช้งานมาเป็นเวลานานตั้งแต่เรื่องของเส้นทางอย่าง GPS การจดจำใบหน้าของโทรศัพท์มือถือ รวมถึงแอพพลิเคชันของธนาคาร, โปรแกรมแปลภาษาที่เราใช้กัน เป็นต้น แต่ในปัจจุบันสามารถใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น ดังนั้น AI จึงช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงาน
เครื่องมือ AI ใช้อะไรในการทำการตลาด ?
ปัจจุบัน AI มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งตอบโจทย์การทำงานในด้านสายงาน Marketing ซึ่งทำให้เราสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ช่วยในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการใช้ AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานการตลาด เช่น การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการคาดการณ์แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเครื่องมือ AI ที่มหัศจรรย์ได้เลือกมามีทั้งหมด 5 เครื่องมือ ดังนี้
1.เครื่องมือ AI Jasper
Jasper AI เป็นเครื่องมือ AI สำหรับการเขียนและการสร้างเนื้อหาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น บทความ, เนื้อหา SEO, โฆษณา Facebook และ หัวข้อของ Ads ที่มีความเฉพาะด้าน ถือว่าตอบโจทย์การทำสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ ได้ในทุกรูปแบบ และยังมีการสนับสนุนหลากภาษา รวมถึงภาษาไทย แต่ก็มีข้อเสียคือราคาของเครื่องมือที่ค่อนข้างแพง
ข้อดี
- เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน ทำให้เราสามารถทำการสร้างเนื้อหาหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Headline, บทความ, เนื้อหาตามหลัก SEO
- โดยการสร้างเนื้อหาที่หลากหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วย
ข้อเสีย
- ไม่มีการให้ใช้ฟรี ต้องเสียค่าบริการถึงจะใช้งานได้
- การสร้างเนื้อหายังมีภาษาของ AI ที่เข้าใจได้ยาก
- การเกิดข้อผิดพลาด อาจจะต้องมีการตรวจสอบทุกครั้งในการสร้างเนื้อหา
ลิงก์ Jasper: https://www.jasper.ai/
2. เครื่องมือ AI Semrush
Semrush เป็นเครื่องมือ AI ที่มีการอัปเดตข้อมูลเพื่อใช้สำหรับการวิเคราะห์ Keyword, คู่แข่ง, Website, Social media รวมถึง การพัฒนา Ads โดยมีฟีเจอร์มากกว่า 40 ฟีเจอร์ เช่น การวิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่งเพียงแค่นำลิงค์มาวาง เหมาะกับทำการตลาดดิจิทัล ซึ่ง Semrush ถือเป็นตัวช่วยในการทำ SEO ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากทำให้เราสามารถทำการตลาดออนไลน์ได้ง่าย ครบถ้วน
และรองรับได้ถึง 14 ภาษา
ข้อดี
เครื่องมือได้รับความนิยมในการทำ SEO
มีข้อมูลจำนวนมาก เอาไว่ใช้ในการวิเคราะห์ เช่น backlink ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำ SEO
ข้อเสีย
ใช้เวลาในการเรียนรู้เครื่องมือนาน เนื่องจากมีฟีเจอร์เป็นจำนวนมาก
ราคารายเดือนค่อนข้างแพง จึงไม่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก
ลิงก์ Semrush: https://www.semrush.com/
3. เครื่องมือ AI Chatfuel
Chatful เป็นเครื่องมือ AI สำหรับการตอบแชทอัตโนมัติเหมาะสำหรับงาน Admin ที่อยากประหยัดเวลาในการตอบแชท ซึ่งที่สามารถโต้ตอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่มีการวิเคราะห์ข้อความได้อย่างเฉพาะเจาะจง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องตอบแชทเอง ทำให้ประหยัดเวลา อีกทั้งยังสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการตอบแชทของลูกค้า ทำให้รักษาลูกค้าเก่า และเพิ่มลูกค้าใหม่ได้
ข้อดี
- สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าจากแชทได้
- สร้างแชทได้ง่ายและรวดเร็ว
- มีฟีเจอร์การสนทนาให้ได้เลือกใช้งาน
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายแพงสำหรับฟีเจอร์พรีเมียม
- การใช้งานช่วงแรกอาจยาก เนื่องจากบางฟีเจอร์มีความซับซ้อน
- การแปลแชทเป็นหลายภาษาทำได้ยาก
ลิงก์ Chatful: https://chatfuel.com
4. เครื่องมือ AI Lexica
Lexica เครื่องมือ AI ที่ช่วยออกแบบภาพ โดยเราสามารถสร้างภาพขึ้นมาเองได้เพียงแค่ใส่คำสำคัญ ข้อความ และมีการเปลี่ยนภาพได้ตามความต้องการ โดยใช้คำอธิบายเพิ่มเติม รวมถึงสามารถกำหนดขนาดภาพที่เราต้องการได้ โดย Lexica มีค่าใช้จ่ายตามคุณภาพของงาน
ซึ่งภาษาส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นภาษาอังกฤษ
ข้อดี
- สร้างภาพได้โดยง่ายเพียงใส่ keyword หรือหัวข้อสั้น ๆ
- ภาพที่ออกแบบสามารถทำได้หลายรูปแบบ ทำให้ภาพมีการออกแบบที่แปลกใหม่
ข้อเสีย
- ไม่สามารถใช้ฟรีได้ ต้องมีการจ่ายเงิน
- ภาพที่ออกมาไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
- การปรับแต่งภาพยังมีข้อจำกัด
ลิงก์ LEXICA: https://lexica.art/
5. เครื่องมือ AI Brandwatch
Brandwatch เป็นเครื่องมือ AI ที่ใช้ในการวิเคราะห์โซเชียล ซึ่งเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ถึงผู้อิทธิพลในขณะนั้น หรือที่เราเรียกกันว่า influencer ทำให้การที่เราจะเลือกใครสักคนมาเป็น influencer ให้ถือเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพียงแค่กรอกข้อมูลแบรนด์ของเราลงไปที่เครื่องมือ โดยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้จากโซเชียลต่าง ๆ อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น Facebook, instagram หรือ Tiktok ซึ่งตอนนี้ Brandwatch
เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ข้อดี
- การวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายภาษาทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เป็นจำนวนมาก
- รองรับหลายโซเชียลแพลตฟอร์ม
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
- การใช้งานบางฟีเจอร์ต้องมีการเรียนรู้
ลิงก์ Brandwatch: https://www.brandwatch.com
จาก 5 เครื่องมือ AI ที่ได้นำมาถือว่าเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์การใช้งานสำหรับ Marketing ในปัจจุบัน เนื่องจากการที่เราทำการตลาด มีข้อมูลอยู่ในมือเยอะ โดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสาย Marketing ซึ่งเครื่องมือ AI จะเข้ามาช่วยให้เราสามารถทำงานได้ง่าย รวดเร็วขึ้น ถือเป็นการประหยัดเวลา แต่การใช้ AI บางตัวมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นก่อนที่ใช้งานเครื่องมือ AI ควรศึกษาข้อมูลก่อนก่อนใช้งาน เพื่อประสิทธิภาพของงาน
Comentários