#BrandTips เคยสงสัยไหมว่าเวลาเราเจอสีหรือว่าเจอสัญลักษณ์บางอย่าง ก็จะทำให้นึกถึงแบรนด์บางแบรนด์ขึ้นมาอย่างฉับพลันและเป็นเรื่องปกติมากที่เรามักจะเจอเรื่องแบบนี้อยู่เสมอ เพราะนั้นคือสิ่งที่แบรนด์ตั้งใจสร้างตัวตนและเอกลักษณ์หรือที่เรียกกันว่า Brand Identity
.
#BrandIdentity คือการสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ดูแตกต่าง โดดเด่น และยิ่งคุณมีจุดแข็งของแบรนด์มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งช่วยให้แบรนด์คุณ
เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้นตามไปด้วย ไม่เพียงเท่านั้นการสร้างแบรนด์ที่ดีและมีเอกลักษณ์นั้น ก็สามารถช่วยคุณสร้างการตลาดหรือเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ง่ายขึ้นอีกเช่นกัน มาถึงตรงนี้แล้วเริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าหากเราอยากสร้าง Brand Identity นั้นต้องมีอะไรบ้างดูกันเลย…
.
การสร้าง Brand Identity นั้นมี 4 กลุ่มหลักด้วยกันคือ
1. Graphic Identity จดจำด้วยการมองเห็น เช่น รูปภาพ โลโก้ และตัวหนังสือ เป็นต้น
2. Sensorial Identity สร้างการับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 รูป รส กลิ่นเสียง ผิวสัมผัส
3. Behavioral Identity อัตลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรมของลูกค้า เช่นการสร้างแอปพลิเคชั่นโดยการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า
4. Functional Identity สร้างแบรนด์ให้จดจำจากคุณสมบัติของสินค้าและบริการ
.
และจะเป็นเรื่องที่ดีต่อแบรนด์มาก หากคุณสามารถทำให้สินค้าและบริการของอยู่ในทั้ง 4 กลุ่มที่กล่าวมาข้างบนนี้
1. Graphic Identity
การสร้างแบรด์ผ่าน รูปภาพ โลโก้ ตัวหนังสือ ลวดลาย และสี ซึ่งถือว่าองค์ประกอบเหล่านี้ คือขั้นแรกของการสร้างภาพของแบรนด์ให้จำได้ง่าย เลยก็ว่าได้
2. Sensorial Identity
สร้างแบรนด์ที่สัมผัสได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ
รูป รส กลิ่น เสียง และการสัมผัสรูปร่างลักษณะต่าง ๆ บนพื้นผิวสัมผัส เช่นการสร้างกลิ่นเทียนหอมที่มีเอกลักษณ์และเป็นกลิ่นเดียวในโลก
3. Behavioral Identity
การสร้างอัตลักษณ์ที่สอดคล้องไปกับพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าโดยผ่านการบริการที่ให้ลูกค้าประทับใจ หรือการสร้างแอปพลิเคชั่นเพื่อให้เชื่อมโยงการใช้งานของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด
การสร้างภาพลักษณ์ที่เน้นไปในส่วนของคุณสมบัติ และการใช้งานของแบรนด์ เช่นการทำสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเพื่อการกายภาพและการรักษาโดยเฉพาะ
Comments