top of page

NOKIA จากราชาตลาดมือถือ สู่แบรนด์ที่ถูกลืมในยุคสมาร์ทโฟน


#CaseStudy : เชื่อว่าถ้าพูดถึงโทรศัพท์มือถือเมื่อยุคก่อน คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ยอดฮิตอย่าง Nokia แบรนด์โทรศัพท์มือถือสัญชาติฟินแลนด์ ทั้งรุ่นยอดฮิตอย่าง Nokia 3310 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2000 หรือมือถือเกมมิ่งที่มาก่อนการอย่าง Nokia N Gage ที่เปิดตัวช่วงปี 2003 นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรุ่นที่เรียกได้ว่า ”ฮิตติดลมบน” จน Nokia มีผู้ใช้งานกันทั่วบ้านทั่วเมือง

.

วันคืนที่หอมหวานของ Nokia เริ่มสั่นคลอนเมื่อ Blackberry เริ่มเข้ามาตีตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเป็นการขอพินบีบีเป็นวลีฮิตติดปากวัยรุ่นยุคนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานในปี 2007 Apple ก็เริ่มเปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่เปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล นั่นก็คือ “iPhone” และตามมาด้วย “Android” จากฝั่ง Google ในปี 2008

.

ปี 2007 นั่นเองที่ Nokia อดีตเจ้าตลาดผู้ไร้เทียมทานเกือบจะล้มลาย แต่ก็ยังมีการร่วมมือกับ Microsoft และออก Windows Phone รุ่นแรกในชื่อ “Nokia Lumia 800” ก่อนที่จะขายบริษัทให้กับ Microsoft ยักษ์ใหญ่วงการไอทีในมูลค่า 7 พันล้านเหรียญไปในปี 2013 ในภายหลัง

.

แรกเริ่มแล้ว Nokia Lumia ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone ก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอยู่พอตัว เนื่องจากมีจุดเด่นในด้านเทคโนลยีการถ่ายรูป และการใช้งานเชื่อมต่อกับระหว่างแพลตฟอร์ม

.

แต่ดาวรุ่งอย่าง Nokia Lumia ก็ถึงคราวร่วง เมื่อยอดขายไม่กระเตื้องเท่าที่คาดหลังจากถูกจับตามองว่าจะขึ้นมาเป็นคู่แข่งของ iPhone และ Android ซึ่งปัญหาหลัก ๆ ก็มาจากการพัฒนาซอฟแวร์ของ Microsoft ที่ช้าจนไม่ทันกิน แถมยังมีแอปในสโตร์ที่ยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ iPhone และ Android

.

นั่นทำให้ Nokia Lumia ถูกมองข้ามจากผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ไป โดยรุ่นสุดท้ายที่ออกมาคือ “Nokia Lumia 650” ในปี 2016 ถือเป็นการปิดตำนานดาวรุ่งแห่งวงการสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง

.

ซึ่งในภายหลัง Bill Gates ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ได้ออกมาพูดถึงความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของเขา ก็คือการที่ปล่อยให้ Android จาก Google เติบโตจนกลายเป็น OS ที่มีผู้ใช้มากที่สุด ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นของ Microsoft เพราะเราเริ่มทำมาก่อนใคร คิดเป็นมูลค่ากว่า 13.5 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว

.

แต่หากจะพูดว่าสิ่งที่ Nokia ก้าวพลาดครั้งสำคัญเห็นจะเป็นการที่พยายามยึดติดกับระบบ Symbian ที่ประสบความสำเร็จกับรุ่นก่อน ๆ จนเป็นสิ่งที่ทำเงินให้กับ Nokia มานาน จนสุดท้าย Symbian ที่ Nokia ภูมิใจนักหนาติดปัญหาเรื่องการพัฒนา จนต้องเปลี่ยนไปใช้ Windows Phone ที่พัฒนาซอฟแวร์ช้าอย่างที่กล่าวไปข้างต้น

.

ในปัจจุบัน Nokia หันมาพัฒนาและลงทุนด้านธุรกิจอุปกรณ์เครือข่าย ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็เติบโตถึง 21% เลยด้วยซ้ำ แถมโอกาสของ Nokia ยังมีมากขึ้นเมื่อชาติตะวันตกจำนวนมากไม่เปิดรับเทคโนโลยีจากจีน นั่นทำให้ “Huawei” ผู้นำด้านเครือข่ายระดับโลกเข้ามาตีตลาดได้ยากมาก

.

ล่าสุดช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Nokia มีการเปลี่ยนโลโก้เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่ของบริษัทที่ต้องการเติบโตในยุคเครือข่าย 5G แต่บริษัท HMD Global ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Nokia ออกมายืนยันว่าจะยังใช้โลโก้เดิมที่เราคุ้นตาอยู่ โดยให้เหตุผลว่าการใช้โลโก้เก่าทำให้ผู้บริโภครู้สึกเข้าถึงตำนานรุ่นต่าง ๆ ของ Nokia ได้ดีกว่านั่นเอง


bottom of page