top of page

เทคนิคการวัดผลของ Ads เพื่อไม่ให้ เผาเงิน ไปฟรีๆ

Ads performance

ในโลกธุรกิจออนไลน์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การใช้โฆษณา (Ads) เพื่อเข้าถึงลูกค้าคือสิ่งจำเป็น แต่หลายธุรกิจกลับพบว่าทุ่มเงินไปกับการ ยิงแอด มหาศาลแต่ยอดขายไม่กระเตื้อง นั่นอาจไม่ใช่เพราะโฆษณาของคุณไม่ดี แต่เป็นเพราะคุณยังขาดเทคนิคในการวัดผลที่แม่นยำ บทความนี้จะเจาะลึกถึงหลักการและเทคนิคการวัดผล Ads performance ที่จะช่วยให้คุณใช้เงินได้อย่างคุ้มค่า และเปลี่ยนยอดเงินที่เคย "เผา" ไปกับการยิงแอดให้กลายเป็นกำไรที่งอกเงย


ทำไมการวัดผล Ads performance ถึงสำคัญ?

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังขับรถโดยไม่มีมาตรวัดความเร็วหรือเข็มบอกน้ำมัน คุณจะไม่รู้เลยว่ารถวิ่งไปเร็วแค่ไหน หรือน้ำมันจะหมดเมื่อไหร่ การ ยิงแอด ก็เช่นกัน การวัดผลคือการทำให้คุณมองเห็นภาพรวมทั้งหมด ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางของเงินที่ลงไป


  • รู้ว่าเงินไปอยู่ไหน: การวัดผลจะบอกให้คุณรู้ว่าโฆษณาชิ้นไหนที่ใช้เงินไปเท่าไหร่ และได้ผลลัพธ์กลับมาอย่างไร

  • หยุดโฆษณาที่ไม่มีประสิทธิภาพ: คุณจะสามารถปิดโฆษณาที่เปลืองเงินแต่ไม่สร้างยอดขายได้ทันท่วงที

  • เพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาที่ทำกำไร: คุณจะรู้ว่าโฆษณาชิ้นไหนที่ทำเงินให้คุณมากที่สุด และสามารถเพิ่มงบประมาณเพื่อขยายผลลัพธ์ได้

  • เข้าใจลูกค้ามากขึ้น: การวัดผลช่วยให้คุณเห็นว่าลูกค้าตอบสนองต่อโฆษณาแบบไหน และนำข้อมูลมาปรับปรุงแคมเปญในอนาคต



3 ตัวชี้วัดสำคัญที่นักโฆษณาต้องรู้ (KPIs)

ในการวัดผล Ads performance ไม่ใช่แค่ดูแค่ยอดขาย แต่ต้องดูตัวชี้วัดที่สำคัญเหล่านี้ด้วย:


1. CTR (Click-Through Rate)

  • คืออะไร: อัตราส่วนของจำนวนคนที่คลิกโฆษณาเทียบกับจำนวนครั้งที่โฆษณาถูกแสดง (Impressions)

  • บอกอะไร: บอกว่าโฆษณาของคุณน่าสนใจแค่ไหน ถ้า CTR ต่ำ หมายความว่ารูปภาพหรือข้อความของคุณอาจยังไม่ดึงดูดใจกลุ่มเป้าหมาย

  • ค่าที่ควรจะเป็น: โดยทั่วไป CTR ที่ดีควรอยู่ระหว่าง 1-3% ขึ้นไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและแพลตฟอร์ม


2. CPC (Cost Per Click)

  • คืออะไร: ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อการคลิกหนึ่งครั้ง

  • บอ

  • กอะไร: บอกว่าคุณต้องจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อให้ได้ลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์หนึ่งคน ถ้า CPC สูงเกินไปอาจทำให้คุณขาดทุนได้

  • วิธีปรับปรุง: พัฒนาคุณภาพของโฆษณาให้มีคะแนนความเกี่ยวข้อง (Relevance Score) ที่สูงขึ้น หรือใช้คีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น


3. Conversion Rate

  • คืออะไร: อัตราส่วนของจำนวนคนที่กระทำการตามที่เราต้องการ (เช่น ซื้อสินค้า, ลงทะเบียน) เทียบกับจำนวนคนที่เข้ามา

  • บอกอะไร: นี่คือตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะบอกว่าโฆษณาของคุณสามารถเปลี่ยนผู้สนใจให้กลายเป็นลูกค้าได้จริงหรือไม่

  • วิธีปรับปรุง: นอกจากปรับปรุงโฆษณาแล้ว คุณอาจต้องกลับไปปรับปรุงเว็บไซต์หรือหน้า Landing Page ของคุณให้ใช้งานง่ายและน่าสนใจมากขึ้น



เทคนิคการวัดผลขั้นสูง: จากตัวเลขสู่ความเข้าใจเชิงลึก

การดูแค่ตัวเลขข้างต้นอาจยังไม่พอ ลองใช้เทคนิคเหล่านี้เพื่อเจาะลึกข้อมูลและปรับปรุง Ads performance ให้ดีขึ้นอีกระดับ


1. ทดสอบ A/B Testing

สร้างโฆษณา 2 ชุดที่แตกต่างกันเพียงแค่จุดเดียว (เช่น รูปภาพ, หัวข้อ, หรือข้อความ) และปล่อยให้โฆษณาทั้งสองชุดทำงานไปพร้อมกัน จากนั้นเปรียบเทียบผลลัพธ์ว่าโฆษณาชุดไหนมีประสิทธิภาพดีกว่ากัน วิธีนี้ช่วยให้คุณรู้ว่าอะไรที่ได้ผลและอะไรที่ไม่ได้ผล


2. ใช้ Google Analytics ให้เป็น

นอกเหนือจากแพลตฟอร์มโฆษณาแล้ว ให้ติดตั้ง Google Analytics เพื่อดูพฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์อย่างละเอียด เช่น

  • เข้ามาจากโฆษณาไหน: ดูว่าลูกค้าเข้ามาจากโฆษณา Facebook หรือ Google

  • ใช้เวลาบนเว็บไซต์นานแค่ไหน: ถ้าเข้ามาแล้วออกเลย (Bounce Rate สูง) แสดงว่าหน้าเว็บไซต์ของคุณอาจมีปัญหา

  • คลิกอะไรบนเว็บไซต์บ้าง: ดูว่าลูกค้าสนใจปุ่มหรือลิงก์ไหนเป็นพิเศษ


3. เชื่อมโยงข้อมูลกับ Customer Persona

ข้อมูลจาก Ads performance จะมีความหมายมากขึ้นหากคุณนำมาเชื่อมโยงกับข้อมูลลูกค้าที่คุณได้จากการทำ Research

  • โฆษณา A มี Conversion Rate สูงในกลุ่มผู้หญิงอายุ 25-34 ปี – นี่คือข้อมูลเชิงตัวเลข

  • ทำไมกลุ่มนี้ถึงสนใจโฆษณานี้? – นี่คือคำถามที่คุณต้องหาคำตอบจากการทำ Research เพิ่มเติม คุณอาจพบว่าพวกเขาชอบดีไซน์, ชื่นชอบแบรนด์, หรือสนใจในคุณสมบัติบางอย่างของสินค้าที่โฆษณานำเสนอ

การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแรงจูงใจเบื้องหลังของตัวเลข และนำไปใช้ในการ สร้างแบรนด์ และวางแผนโฆษณาในอนาคตได้อย่างแม่นยำมากขึ้น



คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


Q: ควรดูตัวชี้วัดตัวไหนเป็นอันดับแรก? 

A: ควรดูที่ Conversion Rate เป็นอันดับแรก เพราะนั่นคือเป้าหมายสูงสุดของคุณครับ หลังจากนั้นค่อยย้อนกลับไปดู CTR และ CPC เพื่อดูว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับปรุงบ้าง


Q: ถ้า CTR สูง แต่ Conversion Rate ต่ำเกิดจากอะไร? 

A: โฆษณาของคุณอาจดึงดูดใจ แต่เนื้อหาในหน้า Landing Page หรือเว็บไซต์อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า หรือขั้นตอนการสั่งซื้อยุ่งยากเกินไป ทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปกลางทางครับ


Q: การวัดผล Ads เป็นเรื่องซับซ้อนไหม? 

A: การเริ่มต้นอาจดูซับซ้อน แต่เมื่อคุณเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้ว การวัดผลจะกลายเป็นเรื่องง่ายและเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาดครับ มีเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้คุณดูข้อมูลได้สะดวกมากขึ้น


สรุป

การ ยิงแอด โดยไม่มีการวัดผลที่แม่นยำก็เหมือนกับการ "เผาเงิน" ทิ้งไปเรื่อยๆ การทำความเข้าใจตัวชี้วัดสำคัญอย่าง CTR, CPC, และ Conversion Rate จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมและสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด นำข้อมูล Ads performance ที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมโยงกับข้อมูลเชิงลึกจากการทำ Research เพื่อให้คุณเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง เมื่อคุณทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณจะสามารถเปลี่ยนโฆษณาของคุณจากรายจ่ายที่สูญเปล่า ให้กลายเป็นเครื่องมือทำกำไรที่ทรงพลังที่สุดในการ สร้างแบรนด์ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน


หากคุณต้องการทีมงานมืออาชีพในการยิงแอด

ทางมหัศจรรย์เราพร้อมที่ดูแลแบรนด์ของคุณพร้อมทีมงานมืออาชีพที่ครอบคลุมในการสร้างแบรนด์แลการยิงแอดของแบรนด์เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของคุณและเติบโตให้สอดคล้องกับตลาดของประเทศไทย สามารถติดต่อได้ที่

📞 โทรหาเราที่: 0924841995

📱 ติดต่อผ่าน Line: https://lin.ee/ZO3cxn6 

📱Line ID : @Mahasajan

📧 อีเมล: hello@mahasajan.com

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page