top of page

Branding + Ads Performance: สูตรลับสร้างยอดขายระยะยาวที่ยั่งยืน

สร้างแบรนด์

หลายครั้งที่เราเห็นนักธุรกิจทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการยิงโฆษณา (Ads) หวังให้ยอดขายพุ่งกระฉูด แต่สุดท้ายก็ต้องเผชิญกับยอดขายที่ผันผวนและไม่ยั่งยืน นั่นเป็นเพราะพวกเขามองข้ามส่วนที่สำคัญที่สุดไป นั่นก็คือ การสร้างแบรนด์ (Branding) การตลาดที่แข็งแกร่งไม่ได้เกิดจากการทำโฆษณาเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการผสานพลังระหว่างการ สร้างแบรนด์ และการวัดผล Ads performance บทความนี้จะเปิดเผยสูตรลับที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องและเติบโตในระยะยาว



ทำไม Branding และ Ads ถึงต้องเดินไปด้วยกัน?

ลองนึกภาพว่า Ads คือ "ท่อส่งน้ำ" และ Branding คือ "น้ำ" ถ้าท่อส่งน้ำ (Ads) ดีแค่ไหนแต่ไม่มีน้ำ (แบรนด์) ให้ส่ง ท่อก็ไร้ประโยชน์ ในทางกลับกัน ถ้ามีน้ำดีแต่ไม่มีท่อส่ง น้ำก็ไปไม่ถึงไหนเช่นกัน


  • Ads (ท่อส่งน้ำ) 

    ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง สร้างการรับรู้ และกระตุ้นยอดขายในระยะสั้น

  • Branding (น้ำ)

    ทำหน้าที่สร้างความน่าเชื่อถือ, คุณค่า, และความแตกต่าง ทำให้ลูกค้าจดจำและตัดสินใจซื้อซ้ำในระยะยาว


การขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไปจะทำให้ธุรกิจของคุณไม่สมบูรณ์ และยากที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน



ขั้นตอนการผสาน Branding และ Ads เพื่อสร้างยอดขายที่มั่นคง

การผสานสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มต้นจาก


1. เริ่มต้นด้วยการทำ Research เพื่อสร้างรากฐานของแบรนด์

ก่อนจะเริ่ม สร้างแบรนด์ หรือยิงโฆษณา คุณต้องรู้จักตัวเองและลูกค้าให้ดีเสียก่อน การทำ Research อย่างจริงจังจะช่วยให้คุณ:


  • เข้าใจลูกค้า: รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร, มีความต้องการอะไร, และมีปัญหาอะไร

  • เข้าใจตลาด: รู้ว่าคู่แข่งของคุณคือใคร, มีจุดแข็งจุดอ่อนอะไร, และมีช่องว่างในตลาดตรงไหนบ้าง

  • กำหนดตัวตนของแบรนด์: เมื่อคุณมีข้อมูลที่ชัดเจน คุณจะสามารถกำหนดคุณค่า, วิสัยทัศน์, และบุคลิกของแบรนด์ได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทุกการสื่อสารมีทิศทางที่ชัดเจน


2. สร้าง Content ที่สื่อถึง Brand Identity

เมื่อได้รากฐานที่แข็งแกร่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและสอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์ ไม่ใช่แค่การขายของตรงๆ แต่เป็นการให้ความรู้, สร้างแรงบันดาลใจ หรือแก้ปัญหาให้กับลูกค้า


  • ใช้เรื่องราว (Storytelling): สร้างเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจของแบรนด์เพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับลูกค้า

  • สร้างคอนเทนต์ที่ให้คุณค่า: ไม่ว่าจะเป็นบทความ, วิดีโอ, หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดีย ควรมีเนื้อหาที่ให้ประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย

  • รักษา Brand Voice ให้สม่ำเสมอ: ใช้โทนภาษาและสไตล์ที่สอดคล้องกับบุคลิกของแบรนด์ในทุกช่องทาง


3. ใช้ Ads เป็นเครื่องมือขยาย Brand Identity

เมื่อคุณมีคอนเทนต์ที่ดีและมีตัวตนแบรนด์ที่ชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาใช้ Ads เป็นเครื่องมือในการขยายการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว


  • กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้แม่นยำ: ใช้ข้อมูลที่ได้จาก Research มากำหนดกลุ่มเป้าหมายในแคมเปญโฆษณา เพื่อให้โฆษณาเข้าถึงคนที่ใช่และลดต้นทุนที่สูญเปล่า

  • สร้าง Ad Creative ที่สอดคล้องกับแบรนด์: รูปภาพและข้อความในโฆษณาควรสะท้อนถึงตัวตนของแบรนด์ที่คุณสร้างขึ้น

  • ไม่เน้น Hard-sell จนเกินไป: แทนที่จะขายตรงๆ ลองสร้างโฆษณาที่ให้ความรู้หรือสร้างความประทับใจ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าสนใจในตัวแบรนด์ก่อน


4. วัดผล Ads Performance เพื่อปรับปรุง Branding และการตลาด

นี่คือขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณไม่ “เผาเงิน” ไปฟรีๆ การวัดผล Ads performance จะบอกให้คุณรู้ว่าโฆษณาชิ้นไหนที่ทำงานได้ดีที่สุด และนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงกลยุทธ์ในอนาคต


  • ดู Conversion Rate: ดูว่าโฆษณาชิ้นไหนที่สามารถเปลี่ยนคนเข้าชมให้เป็นลูกค้าได้จริง

  • ดู CTR และ CPC: วิเคราะห์ว่าโฆษณาชิ้นไหนที่มีค่าใช้จ่ายต่อการคลิกที่คุ้มค่า

  • เชื่อมโยงข้อมูลกับ Customer Persona: ลองวิเคราะห์ว่าโฆษณาที่ประสบความสำเร็จมีลักษณะอย่างไร และทำไมถึงโดนใจกลุ่มเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้

เมื่อคุณนำข้อมูลเชิงลึกจากการวัดผล Ads performance กลับมาปรับปรุงกลยุทธ์การ สร้างแบรนด์ และการสร้างคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง คุณจะสร้างวงจรการเติบโตที่ไม่มีที่สิ้นสุด



คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


Q: ถ้ามีงบประมาณจำกัด ควรเน้นไปที่ Branding หรือ Ads ก่อน? 

A: ควรเน้นไปที่การ สร้างแบรนด์ ก่อนครับ เพราะการมีตัวตนที่ชัดเจนจะทำให้การยิง Ads มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อแบรนด์เริ่มแข็งแกร่งแล้วค่อยเพิ่มงบประมาณในส่วนของการโฆษณา


Q: การวัดผล Ads มีอะไรบ้างที่สำคัญที่สุด? 

A: ตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือ Conversion Rate เพราะบอกให้รู้ว่าคุณสามารถเปลี่ยนผู้สนใจให้กลายเป็นลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวชี้วัดอื่นๆ อย่าง CTR และ CPC เป็นเพียงปัจจัยที่ส่งผลต่อ Conversion Rate ครับ


Q: ต้องทำ Research บ่อยแค่ไหน? 

A: การทำ Research ควรเป็นกระบวนการที่ทำอย่างต่อเนื่อง แต่ความถี่จะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจและตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ทุก 6 เดือน หรือทุกปี เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยอยู่เสมอ



สรุป

การ สร้างแบรนด์ และการวัดผล Ads performance ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่คือส่วนประกอบสำคัญที่ต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เริ่มต้นจากการทำ Research เพื่อวางรากฐานที่มั่นคง, สร้างคอนเทนต์และตัวตนของแบรนด์ที่น่าจดจำ, ใช้ Ads เป็นเครื่องมือขยายการรับรู้, และสุดท้ายคือการนำข้อมูลจากการวัดผลมาปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณทำตามสูตรลับนี้ได้อย่างถูกต้อง ธุรกิจของคุณจะสามารถสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืนและเติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะยาว



หากคุณต้องการทีมงานมืออาชีพในการยิงแอด

ทางมหัศจรรย์เราพร้อมที่ดูแลแบรนด์ของคุณพร้อมทีมงานมืออาชีพที่ครอบคลุมในการยิงแอดและปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของคุณและเติบโตให้สอดคล้องกับตลาดของประเทศไทย สามารถติดต่อได้ที่

📞 โทรหาเราที่: 0924841995

📱 ติดต่อผ่าน Line: https://lin.ee/ZO3cxn6 

📱Line ID : @Mahasajan

 📧 อีเมล: hello@mahasajan.com

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page